TYP X Pavicon ปลูกผมถาวร
ผมร่วง
พบว่าผมคนเราปกติมีการหลุดร่วงเกิดขึ้นตั้งแต่ 50-100 เส้นต่อวัน ซึ่งจะไม่กระทบต่อความหนาของผมให้สังเกตุได้
พบว่าในช่วงอายุหนึ่งจะประสบปัญหาผมร่วงผมบางจากพันธุกรรมดังนี้ 2 ใน 3 ของผู้ชายอายุมากกว่า 35 จะประสบกับปัญหานี้
เมื่ออายุ 50 พบว่า 85% ของเพศชายกลุ่มนี้ผมบางลงอย่างชัดเจน ในเพศหญิงอายุ 65 50% จะมีปัญหาผมบาง
การปลูกผมด้วยวิธี FUE
FUE เป็นการปลูกผมวิธีหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาจนเป็นที่นิยมเพราะผลลัพธ์ที่ดี และการพักฟื้นและดูแลหลังการปลูกไม่ยุ่งยากนั้นเอง โดยผู้ป่วยจำนวนมากเชื่อว่าการปลูกผมด้วยวิธีนี้จะสามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเกิดแผลเป็นน้อยมาก ซึ่งจะช่วยปิดบังม่ให้ผู้อื่นสังเกตเห็นว่าเคยผ่านการปลูกผม โดยในส่วนต่อไป เราจะกล่าวถึงความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการปลูกผม
FUE คืออะไร?
การปลูกผมถาวรแบบย้ายเซลล์รากผม (FUE) เป็นวิธีการปลูกผมแบบแผลเล็กเพราะมีการเจาะเซลล์รากผมออกมาทีละกอที่เรียกว่ากราฟต์ผมนั้นเอง เป็นวิธีที่คลินิกและศัลยแพทย์ทั่วโลกนิยมใช้เพื่อฟื้นฟูและแก้ปัญหาผมบางศีรษะล้าน โดยจะเจาะเอารากผมจากบริเวณ Donor Area ซึ่งมักเป็นบริเวณด้านหลังศีรษะของผู้ป่วย หรือเส้นขนจากส่วนอื่นของร่างกาย จากนั้นจึงนำเอากราฟต์ผมเหล่านั้นปลูกลงในบริเวณที่เป็นปัญหาเถิกล้านหรือผมบาง(Recipient Area)
ที่มาของการปลูกผมแบบ FUE
แม้ว่าการปลูกผมจะมีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกในช่วงปีพ.ศ. 2443 แต่เทคนิค FUE สมัยใหม่เพิ่งจะได้รับการพัฒนาขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2533 โดยในช่วงแรก ผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก (“Hair Plug”) และยังไม่ค่อยแพร่หลายในอเมริกาเหนือ จนกระทั่งปี 2545 ตั้งแต่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรก วิธีการนี้ก็ได้รับการพัฒนารวดเร็ว และเป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายโดยศัลยแพทย์ปลูกผมในปัจจุบัน
FUE ได้รับการพัฒนามาจากวิธีการปลูกผมถาวรด้วยกอรากผมแบบผ่าตัด (FUT) เพื่อลดการเกิดแผลเป็น และให้การปลูกผมที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และยังสามารถลดภาวะช็อกหรือรากผมกระทบกระเทือนลงได้ จึงมีอัตรารอดของเซลล์รากผมเพิ่มขึ้น
เพราะเหตุใดการปลูกผมด้วยวิธี FUE จึงให้ผลลัพธ์ที่ดี
ปัญหาผมร่วงผมบางในผู้ชายส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุพันธุกรรมและฮอร์โมนเป็นหลัก โดยผู้ชายเกือบ 80% จะได้รับผลกระทบจากปัญหาผมร่วงประเภทนี้ตั้งแต่อายุย่างเข้าสู้วัยรุ่น ซึ่งเกิดจากภาวะไวเกินต่อฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ที่ทำให้ผมร่วง โดยฮอร์โมนนี้จะจับกับรากผมและทำให้รากผมอ่อนแอลง
โดยการปลูกผมด้วยวิธี FUE เป็นการเจาะเอารากผมออกจากบริเวณที่มีความต้านทานต่อฮอร์โมน DHT เพื่อนำไปลูกในบริเวณที่เถิกล้านที่ด้านบนศีรษะ เช่น บริเวณแนวไรผมที่ถอยร่น หรือบริเวณกระหม่อม เมื่อนำไปปลูกแล้ว รากผมเหล่านี้จะสามารถเจริญเติบโตต่อไปในบริเวณที่เคยเถิกล้านได้ตลอดชีวิตของผู้ป่วยโดยไม่เกิดผลกระทบไดๆจาก ฮอร์โมน DHT เลย
จากการศึกษาต้นทุนค่าใช้จ่ายในการปลูกผม เราพบว่า การปลูกผมด้วยวิธี FUE มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธี FUT เล็กน้อย เนื่องจากใช้เวลานานกว่ามาก ดังนั้น วิธีนี้จึงเป็นที่นิยมในประเทศที่มีค่าแรงต่ำ เช่น ไทย หรือ อินเดีย
ขั้นตอนการปลูกผมด้วยวิธี FUE
FUE เป็นวิธีการปลูกผมที่ประกอบด้วยหลายขั้นตอน และใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูง และในบางกรณี อาจต้องใช้เวลาหลายวันหากต้องใช้กราฟต์ผมจำนวนมาก โดยขั้นตอนมีดังนี้
- โกนศีรษะของผู้ป่วย เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถนำกราฟต์ผมได้โดยง่าย โดยกอรากผมเหล่านี้จะประกอบด้วยรากผม 1-4 ราก
- ใช้เข็มที่เล็กและกลวงในการเจาะสกัดเอากอรากผมเหล่านี้ โดยการขยับเข็มเป็นวงกลมเพื่อให้เกิดแผลขนาดเล็ก
- จากนั้น ดึงกราฟต์ผมออกจากศีรษะโดยใช้ปากคีบ(forceps)ขนาดเล็ก ใส่ในน้ำยาปลอดเชื้อ แล้วเก็บรักษาไว้จนกว่าจะนำไปปลูกผม
- ศัลยแพทย์จะเจาะรูเพื่อเป็นช่องในการฝังรากผมในบริเวณที่เถิกล้าน ซึ่งเรียกว่า Recipient Channel เพื่อใช้ในการปักกราฟต์ผมลงไปในรูนั้นๆ
- จากนั้น ศัลยแพทย์จะใช้ปากคีบ(forceps)ชนิดพิเศษ ที่เอียงทำมุมเฉพาะสอดคล้องกับแนวไรผม เพื่อปักกราฟต์ผมลงในช่องดังกล่าว
จากการศึกษาการปลูกผมในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พบว่า การปลูกผมด้วยวิธี FUE เครื่องมือที่ใช้เจาะกราฟต์ผมที่ใช้กันมากที่สุดคือ FUE แบบมือถือและแบบใช้มอเตอร์ช่วย
การปลูกผมเหมาะกับใคร
การปลูกผมเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านจากพันุกรรมเป็นบริเวณกว้าง หรือปัญหาผมร่วงในผู้ชาย ศัลยแพทย์จำเป็นต้องสามารถระบุระดับความรุนแรงของปัญหาผมร่วง รวมทั้งบริเวณที่มีความต้านทานต่อฮอร์โมน DHTเพื่อที่จะสามารถเจาะสกัดเอากราฟต์ผมบริเวณเหล่านั้นออกมาได้
เส้นผมบางประเภท เช่น ผมหยิก ผมหยักศก หรือผมที่ดกหนา จะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่าเส้นผมที่บางและตรง เนื่องจากผมหยิกหรือหยักศก จะทำให้ดูฟูหนามากกว่าผมบางและตรง นอกจากนี้ การปลูกผมในผู้ที่มีผมสีเข้มที่ตัดกับสีผิวจะทำได้ง่ายกว่าในผู้ที่มีสีผมใกล้เคียงกับสีผิว